คอนโด ยูดีไลท์ 3 ประชาชื่น-บางซื่อ 2.22 ล้านบาท
ขายคอนโด ยูดีไลท์ 3 ประชาชื่น-บางซื่อ ชั้น 8 สภาพใหม่ ขนาด 30.5 ตารางเมตร ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ขายเพียง 2.22 ล้านบาท
สนใจติดต่อ 086 095 9000 ครับ
ขายคอนโด ยูดีไลท์ 3 ประชาชื่น-บางซื่อ ชั้น 8 สภาพใหม่ ขนาด 30.5 ตารางเมตร ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ขายเพียง 2.22 ล้านบาท
สนใจติดต่อ 086 095 9000 ครับ
นักแรกที่ สถาบันโรคทรวงอก
วันที่ 1 ตุลาคม 2557
ผมไปตามหมอนัด ตามเส้นทางประกันสังคม จาก รพ.ปทุมธานี โดย นพ.ปรัชญา สิตะโปสะ คุณหมอผู้มีอัธยาศัยไมตรี ดีอย่างยิ่ง และเป็นเอง กรุณาส่งตัวผมมาที่ “สถาบันโรคทรวงอก” โดยให้การวินิจฉัยเบื้องต้นว่า “หัวใจขาดเลือด”
….วันแรกที่ผมเข้ามาที่ สถาบันโรคทรวง ผมรู้สึกประทับใจ กับการทำงานอย่างเป็นระบบ และด้วยอัธยาศัยไมตรี จากเจ้าหน้าที่ด้วยดีอย่างยิ่ง นับตั้งแต่จุดแรกที่ติดต่อ ต่อให้คุณเป็นตาสี ตาสามา ก็ไม่มีทาง งง หรือ สับสนง่ายๆ (ต่างจากบางแห่ง แค่ยายคนหนึ่งถามอะไรหน่อย ก็ชี้ให้ไปกดบัตรคิว) ขนาดเอกสารจะส่งให้ไปถ่ายเอกสารตามจุดบริการ ยังติดจำนวนว่าถ่ายกี่ใบมาให้อีก
ที่เค้าเตอร์รับบริการแรก มีเจ้าหน้าที่อาวุโส หลายท่านมาทำงานอาสาสมัคร ให้คำอธิบาย จากที่ขั้นตอนก็มีให้ชัดเจนอยู่แล้ว
ดูซิครับ ดูความละเอียดละเอียดถี่ถ้วนของการบริหารที่นี่ซิครับ
เรื่องความสะอาดก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ผมไปที่ไหนมักจะเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าจะทำความสะอาดตลอดเวลา แห้งไม่แฉะ รู้สึกสนิทใจ ถึงแม้สุขภัณฑ์จะดูเก่าไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงรักษาความสะอาดและภูมิทัศน์ได้ดีครับ ขอชมจากใจจริงครับ
ผมได้รับการตรวจ จาก พญ.รติกร เมธาวีกุล แพทย์ผู้มีจิตใจเมตตา แม้คุยกับเจ้าหน้าที่ ก็ให้เกียรติ ดูนอบน้อมถ่อมตน ผมขออวยพรตรงนี้ให้คุณหมอ ประสพความสุข ความเจริญ ยิ่งๆขึ้น ในทุกๆด้าน เพื่อจะได้เป็นต้นแบบของราชการที่ดีสืบไปครับ
คุณหมอว่าคิวที่นี่จะยาวหน่อย แต่สุดท้ายผมก็ได้วันนัดคือวันที่ 2ธันวาคม 2557 ให้มาเตรียมนอนโรงพยาบาล เพื่อจะทำ CAG และ PCI ในวันที่ 3 ธันวาคม
CAG ย่อมากจากคำว่า Coronary Angiogram หมายถึงกระบวนการฉีดสารทึบแสง เข้าไปในหลอดเลือดหัวใจ ให้การ เอกซ์เรย์ เห็นชัดเจนขึ้น หรือที่ เราเรียกว่าการฉีดสี
PCI ย่อมาจากคำว่า Percutaneous Coronary Interventionหมายถึงการซ่อมหลอดเลือดหัวใจ โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่ง ณ เวลานี้ น่าจะเป็นการทำบอลลูน ตามที่เราๆท่านๆเข้าใจกัน ส่วนในอนาคตจะใช้วิธี ส่ง หุ่นยนต์แมลง มุดไปจับก้อนตะกรันในหลอดเลือดออกมา โดยใช้รีโมทคอนโทลก็เป็นได้ในอนาคต
พร้อมกันนั้น คุณหมอยังกำชับว่า หากมีอาการเจ็บหน้าอก สามารถเข้ามาพบแพทย์ ได้ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง….
จริงๆแล้วระหว่างรอเวลานัด หรือโดยประมาณ 2 เดือน ผมมีอาการเจ็บหน้าอก บ่อยมาก โดยเฉพาะ ช่วงเช้ามืด กลางดึก หลังจากนอนไปสัก 2-3 ชั่วโมง บางวันปวดหัวใจ จนทนแทบไม่ไหว อันนี้ต้องขอขอบคุณภรรยาผม ที่คอยมานวด ตรงตำแหน่งนั้นให้ ก็จะคลายปวดลง พร้อมกับอมยาใต้ลิ้น 2 เม็ดเป็นประจำ ซึ่งทางการแพทย์อาจจะไม่เกี่ยวกัน แต่ในรายของผม เมื่อนวดตรงจุดที่ปวด คลึงไปมา จะเหมือนว่ามันจะโล่งขึ้น จะด้วยอุปาทาน หรืออย่างไร ไม่ทราบได้น๊ะครับ….
![]() |
แผนกเอ็กซเรย์ |
……ภรรยาผมเคี่ยวเข็ญ ให้ไปก่อนกำหนด ผมเองก็ไม่ได้จะทำตัวเป็นพระเอกหนังไทย ผู้เสียสละประการใด หากแต่เมื่ออมยาใต้ลิ้นทีไร 2 เม็ด หมอบอกว่า 3 เม็ดเมื่อไหร่ ให้มาหาหมอทัน มันก็ยังไม่เคย 2 เม็ดติดต่อกันสักที แล้วเวลาที่หาย มันก็เหมือนคนปรกติ ไม่ได้มีวี่แวว ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก บางวันปวด 4-5 เวลา อมยาใต้ลิ้นแผงละ 10 เม็ด ซึ่งมาทราบทีหลังว่า ไม่ควรทำอย่างยิ่ง แม้คืนวันที่ 2 ก็มีอาการปวดหัวใจ ประมาณขั้วหัวใจ ตอนตี 3 อมยาก็คลายตามแบบฉบับ แล้วรอออกไปสถาบันโรคทรวงอกตอนเช้ามากๆ โดยแท็กซี่เจ้าประจำน้องอ้วนปลาเผาหน้าหมู่บ้านฯ ที่เป็นกันเอง เสมอมา….
ผมได้รับการตรวจตามขั้นตอนแบบ ตามกระบวนการจัดการที่ผมว่ามีคุณภาพมากๆ ต้องขอชมจริงๆ ละเอียดถี่ถ้วน ถูกใจโก๋รุ่นลายครามแบบเราเป็นอย่างยิ่ง
เอกสาร นอกจากแนบเส้นทางว่าต้องไปไหนมาไหน ยังใส่ถุงให้เรียบร้อย ไม่ต้องกลัวหลุด ซึ่งที่จริงเป็นเรื่องง่ายๆ แต่บางแห่งไม่ทำกัน เคยเจอมาแล้ว บัตรประชาชน หายต้องมาทะเลาะกันว่า ไปตรงไหน?
อยากจะควัก หัวใจ ให้ดูแล…..
ไม่น่าเขียนกลอน อยากจะควักหัวใจ เล้ย โดนควักซะจริงๆ ในเวลาต่อมาครับ……
วันนัดเข้ามาฉีดสี เพื่อที่จะทำการซ่อมแซมหลอดเลือด โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด หรือภาษาหมอเรียกว่า CAG และ PCI ตามลำดับ…..
![]() |
ภาพประกอบจาก http://www.thewellingtoncardiacservices.com ไว้มีโอกาส จะขอภาพของจริงจาก สถาบันโรคทรวงอก มาแนบไว้ |
![]() |
ภาพประกอบจาก http://www.thewellingtoncardiacservices.com จากความเข้าใจ เบื้องต้นด้วยตัวเอง หากผิดพลาดประการใด สามารถท้วงติงแก้ไขได้ครับ |
![]() |
เครื่องพยุงหัวใจ จะตั้งอยู่ปลายเตียง สำหรับภาพ ประกอบเล็กๆ ในภาพเอามาจาก http://ca.maquet.com เพราะเข้าใจง่ายดีครับ |
ซึ่งข้อมูลที่ผมได้จากภรรยา เพิ่มเติมภายหลัง คุณหมอเองอาจจะกลัวผมเสียกำลังใจเพราะภรรยาบอกว่า เครสผมต้องผ่าตัด เพราะหลอดเลือดตันหมดทั้ง 3 เส้น และตะกรันที่อุดตัน อยู่ในตำแหน่ง ล่อแหลมต่อการ หลุดล่วง หรือมีเพียงโคลนของตะกรัน บางชิ้นหลุดเข้าไปในสมองจะเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตได้ ทันที ในรายของผม คุณหมอว่ามีโอกาสเสี่ยงประมาณ 5% เยอะกว่าเครสปรกติ ที่มีอัตราการเสี่ยงเพียง 1% เท่านั้น
ตอนนี้ ผมโดนย้ายมาแผนก CCU (Coronary Care Unit) ชั้น 2 ของตึก 7 (อาคารเฉลิมพระเกียรติ) ของสถาบันโรคทรวงอก ซึ่งขอกล่าวชมเจ้าหน้าที่แผนกนี้ ที่ทำงานเอาใจใส่ดีมากๆ เหมือนญาติสนิท ให้ความคุ้นเคยเป็นกันเอง ซึ่งจริงแล้วเกือบทุกแผนกที่นี่ เจ้าหน้าที่ทำงาน จนอยากให้ รพ.ของรัฐหลายๆแห่ง เข้ามาดูงาน ขนาดผมมีโรคปวดหลังประจำตัว น้องพยาบาล ก็หายามานวดให้ จนหลับคามือไปก็ยังมี และยิ่งไปกว่านั้น งานที่ทุลักทุเลที่สุด ก็คือการขับถ่ายบนเตียง แรกๆก็ฉี่ลำบากเพราะเราไม่คุ้นเคย แต่ในที่สุด ก็ทำได้สำเร็จ แต่ที่หนักใจมากๆ คือตอนถ่าย น้องพยาบาลมิได้รังเกียจ ที่จะจัดการกับความสะอาดเหล่านั้นเลย แถมเต็มใจทำให้อย่างดี พร้อมสเปรย์กลิ่นส้ม ที่ไม่ให้รบกวนเตียงข้างๆ
ผมได้รับคำปลอบโยนจากน้องพยาบาลท่านนึงบอกว่า “คุณลุงคะ เดี่ยวมันก็ผ่านไปได้ค่ะ”
ครับ…..อีก 7 วัน บนเตียงห้อง CCU จนกว่าจะถึงวันที่ 11 ธันวาคม วันนัดผ่าตัดบายพาสครับ
อ่อ…..อีกนิดครับ เตียงนอนที่นี่ ปรับแบบกดปุ่ม ที่นอนนุ้มนุ่ม สบ้าย สบาย กว่าเตียงปรกติมากๆครับ ….แต่คงไม่ต้องอยากมานอนแบบผมกระมังครับ
พฤติกรรมในอดีตและความเป็นมา ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
…..และเมื่อรู้ข่าวกันก็ระดม มาบริจาคเลือดให้ผม ผมยังรู้สึกปลาบปลื้มจนทุกวันนี้ ขอกราบขอบคุณในความเมตตาครั้งนี้ ทุกท่านครับ อาจจะฟังดู ดราม่าหน่อย แต่ความเป็นจริงมันยิ่งกว่าครับ…
นิดนึงครับ…ขอย้อนไปเมื่อ หลายปีก่อนครับ…..
…….จริงๆแล้ว ผมทราบว่าผมเป็น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มาตั้งแต่ปี 2547 แล้วครับ ….
….ผมขับรถกลับจากงานสัมมา กับบริษัทคู่ค้า ที่เมืองกาญจนบุรี ตอนปี 2547 ขับรถกลับถึงบ้าน มีอาการเหมือนเมาค้าง หายใจไม่สะดวกนัก เหมือนรถยนต์วิ่งไม่ครบสูบ อาจจะผมกระทบจากเนื้อลูกวัวย่าง จิ้มแจ่วติดมันกรอบ ๆ หรือเปล่าด้วยไม่แน่ใจน๊ะครับ แต่จำได้ว่า ทานไปเยอะ เพราะด้วยนิสัยส่วนตัว ชอบเนื้อติดมัน มากๆครับ ….(ไม่ควรเอาอย่างน๊ะครับ ผมว่าตัวร้ายเลยเนี่ยครับ)
![]() |
ผมได้ภาพนี้จาก http://www.sads.org.uk/cardiac_tests.htm เข้าใจง่ายดีครับ เป็นการตรวจคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้า มีสายไฟระโยงระยางแปะตามหน้าอก ตามแขนตามขาแบบนี้ครับ |
![]() |
ภาพนี้จาก http://www.sads.org.uk/cardiac_tests.htm เข้าใจง่ายดีครับ เป็น Exercise test ครับ |
….ผมตัดสินใจ ไปหาหมอที่รพ.มงกุฏวัฒนะ (ถนนแจ้งวัฒนะ) ซึ่งช่วงนั้นผมมาเปิดออฟฟิศอยู่แถวเมืองทอง ผมจำชื่อหมอไม่ได้ แต่จำได้ว่าอัธยาศัยดีมากๆ คุณหมอกรุณาตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า ที่เราๆรู้จักกันดีว่า ECG ให้ผม และไม่พบว่า หัวใจจะผิดปรกติแต่ประการใด แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าผม ต้องมีอะไรผิดปรกติแน่ๆ เพราะร่างกายมันไม่เต็ม 100% ครับ….
…. คุณหมอแนะนำให้ทำ Exercise test หรือ ที่เราๆท่านๆเรียกว่า วิ่งสายพาน ในขณะที่จะมีอุปกรณ์ตรวจคลื่นหัวใจขณะออกกำลังด้วย ผมวิ่งไปได้ประมาณ 6นาที คุณหมอบอกว่า “หยุดๆๆๆๆ เพราะกราฟแสดงผมเริ่มผิดปรกติมากๆ” คุณหมอลงความเห็นผมว่า มีโอกาสเป็น “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ” เพราะกราฟจากกระดาษสีชมพูมันฟ้อง ซึ่งผมเองก็ดูไม่เป็น คุณหมอบอกว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษา ทำบอลลูนเพื่อขยายหลอดเลือด ทำได้ไม่ยาก ใช้งบ ประมาณ 180,000 บาท หรือไม่น่าเกินสองแสนบาท ในเวลานั้น…..
….ด้วยสมัยที่ผมทำงานฝ่ายโสตทัศน์Kodak ก่อนที่จะมาทำธุรกิจเอง ในปี 2539 ผมวิ่งเข้าวิ่งออกรพ.พระมงกุฏเกล้าตลอด เนื่องจากคุ้นเคยกับ อาจารย์หมอ พลตรี ปชุม ทาสุคนธ์ อาจารย์ผู้สอนนักศึกษาแพทย์โรคหัวใจ ที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า ผมจะเข้าไปดูแลเรื่อง เครื่องฉายสไลด์ ในห้องหุ่นสำหรับฟังเสียงหัวใจ และมีภาพประกอบ ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าทันสมัยมากที่สุด ….
….ผมโทรศัพท์ นัดหมายกับคุณหมอ ปชุม พร้อมกับรับผมเป็นคนไข้ของท่านทันที ถึงตรงนี้ ผมใคร่ขอขอบคุณคุณไพเราะ เจ้าหน้าที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า ที่อำนวยความสะดวกและเป็นกันเองกับผมเสมอมาครับ
…..ผมก็เริ่มทานยา ปรับยา จากหมอ ปชุม จนเข้าที่ ตลอดหลายปี ตั้งแต่ปี 47 เป็นต้นมา จะอมยาใต้ลิ้นก็ต่อเมื่อ เหนื่อยมากๆจริงๆ หายใจไม่สะดวก อมเม็ดนึง ก็จะอยู่ได้ไปเป็นสัปดาห์ แต่คุณหมอ มักจะกำชับว่า ให้ติดตัวไว้ตลอด เพราะอาจจะไว้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย สมัยก่อนยังใส่ขวดเล็กๆ สีชาเข้มๆกันแสง ซึ่งผมจะติดตัว ติดรถ ติดบ้านไว้เต็มไปหมด กันฉุกเฉิน……
…..ช่วงนี้ นายแพทย์ชูศักดิ์ เกษมศานติ์ หัวหน้าทีมการผ่าตัด ชุดหนึ่งของ สถาบันโรคทรวงอก แวะมาแนะนำตัวถึงเตียงผม ให้ข้อมูล ว่าจะต้องทำอย่างไร เอาหลอดเลือดส่วนไหนไปบ้าง ท่านเป็นกันเอง แต่ก็สุขุม ตามแบบฉบับหมอผ่าตัดกระมังครับ ถึงตรงนี้ ตรงขอกราบขอบคุณคุณหมอไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ เพราะถือว่า เป็นส่วนหนึ่งของการให้ชิวิตใหม่ผมเลยครับ…
…..วิสัญญีแพทย์ กับผู้ให้ข้อมูลก่อนการผ่าตัด ขออภัยที่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ ก็มาแนะนำตัว ให้ความคุ้นเคย ให้กำลังใจ ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง มีชาร์ท มาให้ดูถึงข้างเตียง เป็นระบบดีมากๆเลยครับ ทำให้เรารู้สึกว่า การผ่าตัดไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย แถมยังมั่นใจในทีมงานคุณหมอที่ สถาบันนี้ มากขึ้นอีกต่างหาก
…..ครับ พรุ่งนี้ วันที่ 11 ธันวาคม วันที่คุณหมอนัดผ่าตัดครับ…คืนนี้ถึงไม่ตื่นเต้นอะไรมาก แต่ก็แทบนอนไม่หลับเลยครับ เพราะต้ังแต่เกิดมา ไม่เคยเข้ารับการผ่าตัดใหญ่แบบนี้เลยครับ ….
วันนัดการผ่าตัด ผมถือว่าเป็นวัน “รอยต่อชีวิต”ผมครับ……..อาจจะมีคำถามว่า ทำไมผมไม่ผ่าตัด หรือ ทำบอลลูนกับ คุณหมอ ปชุม ที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า ล่ะครับ
……..ถึงตรงนี้ ต้องขอไว้อาลัยให้กับ การจากไปของ อาจารย์หมอ พลตรี ปชุม ทาสุคนธ์ ในปลายปี 2556 ด้วยอายุ 83 ปี ทำงานนอกเกษียรราชการ และเปรยกับผมเสมอๆว่า จะทำงานใช้หนี้แผ่นดิน จากที่ท่านได้ทุนไปเรียนเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ คุณหมอเป็นคนอัธยาศัยไมตรี ดีมากๆ มีเมตตา ให้ความรู้ผมมากมาย ไม่เฉพาะแต่ด้านโรคหัวใจเท่านั้น ผมเองก็ให้ความเคารพ และนับถือท่านเสมอมา ยังเสียดายว่า จะทำสไลด์ให้เป็นดิจิตอลไฟล์ให้ท่าน ก็ยังไม่ได้ทำ ด้วยช่วงนั้น สภาพเศรษฐกิจส่วนตัว ค่อยข้างลำบาก ….
…..อาจารย์หมอ บอกว่าได้ฝากผมไว้กับ ลูกศิษย์แล้ว และผมก็เริ่มทานยากับคุณหมอ หัสยา ประสิทธิ์ดำรง ตั้งแต่คุณหมอเริ่มป่วยประมาณระหว่างปี 2555-2556 ….
…แต่ด้วย สภาพเศรษฐกิจ ส่วนตัว เพราะค่ายาต่อ 3 เดือนประมาณ 12,000 บาท ซึ่งในภาวะที่ค่อนข้างลำบาก ก็ถือเป็นค่าใช้จ่ายตัวหลักเหมือนกัน อีกอย่าง รพ.พระมงกุฏเกล้า ประกันสังคมเต็มตลอด จนในที่สุด ผมก็มาทานยา กับ รพ.ปทุมธานี ในฐานะประกันสังคมที่นี่ครับ ….
…..ด้วยอุปทาน หรืออะไรก็ไม่ทราบได้ครับ เหมือนยาที่ได้รับ จาก รพ.ปทุมธานี อาจจะด้อยกว่า (ขออภัยน๊ะครับ หากเป็นการเข้าใจผิด เป็นความเห็นส่วนตัวน๊ะครับ) เพราะเท่าที่ดูมี เพียง Aspirin ตัวเดียวทีเหมือนกัน ผมเริ่มผิดวินัยต่อการกินยา กินบ้างไม่กินบ้าง อาศัยออกกำลังกายอย่างเดียว เป็นเวลาเกือบปี ตลอดระะเวลาที่มา เริ่มทานยากับ รพ.ปทุมธานี …
…..ระยะแรกๆ ผมก็ยังแข็งแรงดีอยู่ ออกกำลังกายได้ทุกเช้าตามปรกติ แต่เริ่มออกอาการ เมื่อขับรถไกลๆ คำว่าไกลผม แค่สระบุรี หรือปากช่องไปกลับ กรุงเทพฯ ก็เริ่มมีอาการเจ็บหน้าอก จากวงกว้างๆ เริ่มโฟกัสใกล้หัวใจมากขึ้นทุกวัน ยาอมใต้ลิ้น ถูกเอามาใช้ใหม่ถี่ขึ้น
…..ผมขับรถกลับจากไปพบลูกค้าที่สระบุรี ขากลับอยากทานปลาทับทิมย่างเกลือ ด้วยความรู้ที่ว่า ปลาทับทิมย่าง ไม่มีน้ำมัน ไขมันน้อย แต่ลืมไปว่า ปลาทับทิมย่างเกลือ มีเกลือโปะ อยู่ที่หนังมากมาย ผมทานปลาทับทิม ไปไม่ถึง 3 คำ บนโต๊ะอาหาร ช่วงเวลาประมาณพบค่ำ ก็เกิดอาการเจ็บหน้าอก บริเวณขั้วหัวใจแบบรุนแรง ปวดมากๆ เหมือนใครมาบีบ หัวใจ บริเวณด้านบน เราคิดเอาเองว่าน่าจะเป็นขั้วหัวใจ ผมอมยา 2 เม็ดแล้ว อาการยังไม่ทุเลาลง และสังเกตตัวเองว่า ผิดปรกติแน่ๆ เพราะอาการแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้เลย มือข้างซ้ายแทบไม่มีแรง บอกภรรยาให้เรียกแท็กซี่ ไป รพ.ปทุมธานี ใกล้บ้านให้ด่วน ในขณะที่ระหว่างทางอมยาเม็ดที่ 3 แต่อาการก็ยังทรงๆ ….
….ผมได้รับการดูแล อย่างรวดเร็วที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ปทุมธานี ท้ังฉีดทั้งกินยา ทำให้ไม่นานผมก็มีความรู้สึกหายปวดหัวใจและเริ่มกลับสู่ปรกติ จากการวินิจฉัย โดยสรุป จริงๆมีที่มาที่ไป มากกว่านี้ครับ เอาเป็นว่า คุณหมอ ปรัชญา สิตะโปสะ ได้กรุณาส่งตัว ผมให้มารักษาต่อที่ สถาบันโรคทรวงอก ตามเส้นทางประกันสังคม โดยออกใบส่งตัวจาก รพ.มาให้ครับ ซึ่งผมก็ได้เริ่มมาเป็นคนไข้ ของสถาบันโรคทรวงอก ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 นั้น เป็นต้นมาครับ…..
…..คุณหมอ ที่ รพ.ปทุมธานี ย้ำว่า “โรคหลอดเลือดหัวใจ ต้องทานยาตลอดชีวิตห้ามหยุดยาเป็นอันขาด” ครับ
![]() |
ยาอมใต้ลิ้น เม็ดเล็กๆสีชมพู ที่ผมติดตัวเป็นประจำ สรรพคุณ ขยายหลอดเลือดแบบเฉียบพลัน อมไม่เกิน 1 นาที จะไม่แน่นหน้าอกเลย ปรกติราคา กล่องละ 70 บาท มี 100 เม็ด ครับ |
…..จากคำบอกเล่า ของคนเคยผ่าตัด บอกว่า เวลาจะเป็น 0 และก็เป็นแบบนั้น จริงๆ ครับ ไม่มีฝัน ไม่มีไปเฝ้าพระอิศวร ที่ไหนเลยครับ เหมือนภาพยนตร์ตัดตัดซีนมาชนกัน เพียงแค่กระพริบตา……
……จำได้ว่า นอนดูนาฬิกาดิจิตอล สีแดงๆที่ เหนือประตูหน้าห้อง ว่าเวลายังไม่ 9 นาฬิกา แต่เราเผลอหลับไปตอนไหน ไม่ทราบได้ ระหว่างที่ทีมวิสัญญีแพทย์ ชวนคุย
ผมถูกภรรยา และหลาน เขย่าตัว บนรถเข็นเตียง
“ลุงๆๆ “ ผมรับรู้ได้จากทุกสัมผัส และได้ยินเสียงชัดเจนแต่ไม่สามารถตอบรับได้ แม้แต่จะลืมตา ผมไม่ทราบด้วยว่ากี่โมงกี่ยาม ซึ่งมาถามภรรยาภายหลังว่า เข็นเตียงออกมาตอน 16.30 น. ภรรยาว่า ต้องให้เลือดอะไรมากมาย ในห้อง ICU
ถึงต้องนี้ ก็ขอขอบคุณ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทั้งเพื่อนนักเรียน โดยเฉพาะเพื่อนๆสมัยเรียนช่างกลปทุมวัน และเพื่อนที่หมู่บ้าน ที่มาช่วยกันบริจาคโลหิตให้ผม อดที่จะปลาบปลื้มซาบซึ้งไม่ไ้ด้ครับ
(มีเพื่อนๆ สมัยเรียนหนังสือ บ้าง สมัยทำงานบ้าน ต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่รวบรวมภาพมาไว้ไม่หมดครับ)
….น้พยาบาลคนนึงชื่อ “นุ้ย” ในห้อง ICU ได้กรุณามาจัดตำแหน่ง เครื่องช่วยหายใจให้ใหม่ ในช่วงเช้า ผมรู้สึกโล่ง สบาย ไม่ทรมาน และขอขอบคุณ น้องพยาบาลคนนี้เป็นอย่างมาก…..ที่เอาใจใส่ ตั้งใจทำงาน เห็นคนไข้เหมือนญาติสนิท ขอให้น้องจงเจริญกับสายงานที่น้องปรารถนาด้วยครับ
….ผมเริ่มมองเห็น “พี่แตน”พยาบาลในห้อง ICU ที่มักจะมาเรียกชื่อผม ทุกๆครั้งที่เดินผ่าน ต้องขอขอบคุณพี่แตนมา ณ โอกาสนี้ครับ ที่พยายามปลุกผมให้ตื่นตัวตลอดเวลาครับ
ผมได้ย้ายออกจากห้อง ICU ตอนเช้าวันที่ 14 มกราคม 2557 มาพักฟื้นที่ห้อง Intermediate critical care บนชั้น 9 ของตึก 9 โดยมีพยาบาล ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
……โดยสรุปคุณหมอบอกว่าได้ผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจผมทั้งหมด 5 เส้น โดยใช้หลอดเลือดดำที่ ขาซ้าย กับหลอดเลือดแดงที่แขนซ้าย ครับ…..
ก้าวแรกที่ ผมลงจากเตียงนับตั้งแต่ วันที่ 2 ธันวาคม เป็นต้นมา ร่างกายเหมือน หุ่นยนต์เพิ่งประกอบเสร็จ ผมควบคุมเท้าไม่ได้เลย ยืนก็จะยืนไม่ไหว ทำท่าจะล้ม ได้หมอประเสริฐกับน้องจัมโบ้ หิ้วปีก จนสามารถเดินไปนั่งหน้าห้องได้สำเร็จ คุณหมอประเสริฐ เป็นนักการบำบัดที่ อัถยาศัยดีมากๆ เป็นกันเอง และบังเอิญ น้องจัมโบ้ นักศึกษาฝึกงาน เป็นคนบ้านเดียวกันกับผม ถึงไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็รู้สึกอุ่นใจ เหมือนลูกหลาน มาช่วยเรื่องกายบำบัดเรา
ผมก็ได้ย้ายจากห้องแรก ขยับมาล๊อกที่สอง ในแผนกเดียวกัน ซึ่งหมายถึงร่างกายผมดีขึ้น มานอนเตียงเบอร์ 16 ริมหน้าต่าง รู้สึกตัวเองว่าเริ่มดีขึ้นมาก น้องจัมโบ้ พาเดินไกลมากขึ้น ซึ่งก่อนเดินและหลังเดิน ก็จะมีการวัดความดัน ฟังหัวใจ จับชีพจร ดูถึงความแตกต่างตลอดเวลา รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กหัดเดิน
ขอขอบคุณน้องพยาบาล จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เพราะช่วงตี 3 ของวันพุธ ผมอยากเข้าห้องน้ำขับถ่ายมาก เธอก็เอารถสุขา มาเทียบให้ถึงเตียง บอกว่า “ลุงเต็มที่เลย เดี๋ยวหนูจัดการเอง” น้องพยาบาลคนนี้ น้ำเสียงมีเมตตามากๆ เสียดายไม่ได้ถามชื่อไว้ ด้วยยังไม่คุ้นเคยกับ รถสุขา ทำให้ฉี่พลาดเป้า ไปเลอะพื้นบ้างเล้กน้อย น้องพยาบาลก็บอกว่าไม่เป็นค่ะ ผมล่ะเกรงใจน่าดู
เป็นอีกวันที่รู้สึกดีมากๆ หลังจากที่ได้ถ่าย เมื่อตอนเช้ามืด และช่วงก่อนเที่ยง วันนี้ น้องที่แผนกกายบำบัดอีกคนนึง ก็พาเดิน ไปจนถึงหน้าลิฟต์
ประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง คุณหมอชูศักดิ์ หมอที่ผ่าตัดผม กับคณะพยาบาล ได้มาเจาะเลือดผสมน้ำ ในช่องงว่างของปอด จริงๆแล้วตอนเจาะไม่ได้เจ็บอะไร เพราะคุณหมอฉีดยาชา บริเวณด้านหลัง ตำแหน่งแถวหัวใจได้ ผมเองก็ไม่กล้าดูเข็ม ซึ่งในความรู้สึกก็ไม่เล็กไม่ใหญ่ รู้สึกเหมือนมันทะลุ เนื้อด้านหลัง ดัง”ปุ๊” พลันก็มีน้ำสี คล้ายๆน้ำกระเจี๊ยบ ไหลออกมา ดูจากขวดที่รองรับ คุณหมอบอกว่าประมาณ 500 CC. ซึ่งก็ไม่ใช่น้อย
คุณหมอว่า ทำให้เราหายใจไม่สะดวก เป็นผลพวง จากการผ่าตัด ซึ่งจะมีบางส่วน ตกค้าง ไม่เข้าไปในระบบร่างกายเรา
ขอบคุณเพื่อนบ้าน ที่เอาผลไม้ อร่อยๆมาฝาก อีกทั้งพี่ๆน้องๆอีกหลายคน และในวันนี้ ภรรยาผม ก็ช่วยเข็นรถเข็น พาผมเข้าห้องน้ำตามปรกติได้ ในช่วงแรกๆก็ ทุลักทุเล พอสมควร ในที่สุด ผมก็สามารถใช้ห้องน้ำได้ตามปรกติแล้วครับ นับเป็นพัฒนาการอีกระดับนึงของผม
ส่วนอาการเจ็บแผล ก็ยังระบมไปทั้งตัว โดยเฉพาะตำแหน่ง ที่เจาะเอาน้ำในปอดออก ในช่วงนี้ทุกเช้า พยาบาลจะมาฉีดยาฆ่าเชื้อ โดยผ่านทางสายน้ำเกลือ ให้ความรู้สึกเหมือนเย็นจากแขนไปจนถึงขั้วหัวใจ
ผมถูกย้ายเตียงอีกรอบ มาล๊อกที่ 3 ของ ชั้น ซึ่งเป็นคนไข้ ที่ใกล้จะได้กลับบ้านแล้ว ผมช่วยตัวเองได้มากขึ้น เข้าห้องน้ำเองได้ เดินได้ในระดับนึง ช่วงแรกๆ ก็ต้องใช้วอกเกอร์ เป็นตัวช่วย และก็พัฒนาขึ้นตามลำดับ จนเดินได้เอง
ถึงตรงนี้ ต้องขอขอบคุณทีมงาน กายบำบัด ของ สถาบันด้วย ที่ให้ความเอาใจใส่ เป็นกันเอง อัถยาศัยไม่ตรีมากๆครับ
กราบขอบคุณพี่ เต่า พยาบาลวิชาชีพ เพื่อนบ้านคนแรก ตั้งแต่เริ่มๆ ที่เข้ามาอยู่หมู่บ้านปาริชาต คุ้นเคยกันตั้งแต่ปี 2538 จนปัจจุบัน มาทำแผลให้ถึงบ้านตลอดเวลา คงมีบุญสัมพันธ์ กันมาครับ
เรืองราวยังไม่จบทีเดียวครับ…มีเวลาจะมาเขียนให้อ่านต่อครับ ขอขอบคุณที่ติดตามครับ
This is your very first post. Click the Edit link to modify or delete it, or start a new post. If you like, use this post to tell readers why you started this blog and what you plan to do with it.